พื้นที่วางสัมภาระท้ายรถ

รถคลาสไหนที่เหมาะกับทริปของคุณที่สุด? คุณสามารถลองใช้ตัวอย่างกับรูปในบทความนี้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ ตัวเลขที่ระบุด้านล่างนี้คือจำนวนสูงสุด แต่ยังไงก็ตาม แน่นอนว่าถ้าคุณมีผู้โดยสารจำนวนน้อยกว่า คุณก็จะวางสัมภาระได้มากกว่า แม้ว่าจะใช้ที่นั่งเสริมก็ตาม สุดท้ายนี้ โปรดทราบว่า ToCoo! ให้บริการจองรถตามคลาสเท่านั้น ไม่สามารถเลือกรุ่นรถได้ 

ข้อควรระวัง
※อย่าลืมนับที่นั่งเป็น 1.5 ที่นั่งสำหรับเด็ก หากมีเด็กเดินทางมาด้วย ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเพจคาร์ซีทสำหรับเด็ก
※ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ (ใบขับขี่สากล) เป็นสิ่งจำเป็นเมื่อขับขี่รถทุกประเภทในญี่ปุ่น ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเพจใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ

ชนิดรถจำนวนผู้โดยสารสูงสุดจำนวนสัมภาระสูงสุด
รถ 660 cc42~3
รถขนาดคอมแพคต์52~3
รถขนาดสแตนดาร์ด52~3
สเตชั่นวากอน53~4
SUV53~4
มินิแวน83~4
อื่นๆ2~92~4

รถ 660 cc

แนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางแบบประหยัด เพราะรถมีขนาดเล็กและประหยัดน้ำมัน แต่อาจจะค่อนข้างแคบสำหรับบางคน

Nissan Dayz

คลังภาพ

รถขนาดคอมแพคต์

รถขนาดคอมแพคต์จะกว้างกว่ารถ 660 cc เล็กน้อย แต่ก็ยังอาจรู้สึกแคบหากมีผู้โดยสาร 5 คน

Nissan March

คลังภาพ

Nissan Note

คลังภาพ

Nissan Cube

คลังภาพ

รถขนาดสแตนดาร์ด

แนะนำสำหรับทั้งผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวและทำธุรกิจ เพราะว่าภายในจะกว้างกว่ารถขนาดคอมแพคต์ เป็นคลาสรถที่ถือว่าสะดวกสบาย

Nissan Latio

คลังภาพ

สเตชั่นวากอน

โดยทั่วไปสเตชั่นว่ากอนจะมีพื้นที่สำหรับวางสัมภาระกว้างขวาง จึงแนะนำสำหรับผู้ที่นำกระเป๋าเดินทางมาจำนวนมาก

Nissan Wingroad

คลังภาพ

SUV

รถ SUV จะแนะนำเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ เช่น ตั้งแคมป์ สกี เล่นเซิร์ฟ เป็นต้น SUV บางรุ่นจะเป็น 4WD จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีแผนทำกิจกรรมข้างต้น

Nissan X-Trail

คลังภาพ

มินิแวน

แนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ หรือผู้ที่เดินทางมาพร้อมกับสัมภาระจำนวนมาก โดยปกติหากมีผู้โดยสาร 6 คน รถมินิแวนจะสามารถจุกระเป๋าเดินทางได้ประมาณ 6 ใบ โปรดทราบว่าหากผู้โดยสารใช้ที่นั่งทั้งหมด (เต็ม 8 ที่นั่ง) พื้นที่สำหรับวางกระเป๋าจะค่อนข้างน้อย

Nissan Elgrand

คลังภาพ

Nissan Serena

คลังภาพ

รถหรู/รถสปอร์ต

รถหรูและรถสปอร์ส่วนใหญ่ภายในรถจะกว้างขวาง และโดยปกติพื้นที่ท้ายรถจะมีขนาดใหญ่กว่ารถคลาสทั่วไปด้วย นอกจากนี้ยังมีรถสปอร์ตสองที่นั่งซึ่งเหมาะผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ แต่รถสปอร์ตจะไม่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ไม่มาก

รถแวน/รถตู้

แนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่และมีสัมภาระเยอะ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่ารถรุ่น Hiace จะไม่สามารถติดตั้งยางหิมะ (snow tires) ได้ นอกจากนี้ การขับรถตู้ 10 ที่นั่ง (รวมคนขับ) นั้น จะต้องใช้ใบขับขี่สากลแบบเฉพาะ ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าเพจใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเภท สำหรับรถประเภทนี้จะมีพื้นที่วางสัมภาระน้อยมากถ้าที่นั่งทั้งหมดถูกใช้งาน ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำให้จองรถ 2 คัน (เช่น มินิแวน 2 คัน เป็นต้น) สำหรับใครที่มีผู้โดยสารเยอะและมีสัมภาระเยอะ

ขนาดกระเป๋าเดินทาง:

ความสูง .ความกว้าง .ความลึก .หน่วย
กระเป๋าเดินทางสีขาว (ใหญ่)725030ซม.
กระเป๋าเดินทางสีเท่า (ใหญ่)715028ซม.
กระเป๋าเดินทางสีเงิน (กลาง)684526ซม.
กระเป๋าเดินทางสีเงิน (เล็ก)554020ซม.
กระเป๋าเดินทางสีฟ้า (เล็ก)554020ซม.

※รูปภาพที่ใช้ถูกถ่ายในเดือนมิถุนายน 2019 โปรดทราบว่าพื้นที่สัมภาระหลังรถอาจต่างกันไปขึ้นอยู่กับการผลิต รุ่น หรือปี

Read More

เครื่องหมายจราจรในญี่ปุ่น

เราหวังว่าข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องหมายจราจรในญี่ปุ่นในบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าชาวต่างชาติทุกท่านที่เช่ารถขับในญี่ปุ่น  ซึ่งได้รวบรวมเครื่องหมายจราจรที่จำเป็นเป็นส่วนสำคัญ พร้อมคำอธิบายของแต่ละเครื่องหมาย อ่านล่วงหน้าเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัยในญี่ปุ่น!

<ห้ามผ่าน>

ถนนปิดการสัญจรสำหรับคนเดินถนน, ยานพาหนะ (รถยนต์, รถยนต์ขนาดเล็ก, รถจักรยานยนต์ ฯลฯ) รถไฟ (ปิดการสัญจรทุกประเภท)

<ห้ามยานพาหนะผ่าน>

ถนนปิดการสัญจรสำหรับยานพาหนะทุกชนิด (รถยนต์, รถยนต์ขนาดเล็ก, รถจักรยานยนต์ ฯลฯ) 

<ห้ามยานพาหนะเข้า>

ยานพาหนะ (รถยนต์, รถยนต์ขนาดเล็ก, รถจักรยานยนต์ ฯลฯ) ไม่สามารถเข้าได้

<ห้ามรถผ่าน ยกเว้นรถจักรยานยนต์>

อนุญาตเฉพาะยานพาหนะ 2 ล้อเท่านั้น

<ห้ามยานพาหนะผ่าน (หลายประเภท)>

ยานพาหนะประเภทที่แสดงตามป้ายไม่สามารถใช้ถนนได้ (ในที่นี้ หมายถึง ห้ามรถยนต์และรถจักรยานยนต์)

<เดินรถตามทิศทาง>

ไม่สามารถเดินรถไปทางอื่นนอกจากทิศทางที่ลูกศรกำหนดได้ (ตรงไปหรือเลี้ยวซ้ายเท่านั้น)

<เดินรถตามทิศทาง>

ไม่สามารถเดินรถไปทางอื่นนอกจากทิศทางที่ลูกศรกำหนดได้ (เลี้ยวซ้ายเท่านั้น)

<เดินรถตามทิศทาง>

ไม่สามารถเดินรถไปทางอื่นนอกจากทิศทางที่ลูกศรกำหนดได้ (ตรงไปเท่านั้น)

<เดินรถตามทิศทาง>

ไม่สามารถเดินรถไปทางอื่นนอกจากทิศทางที่ลูกศรกำหนดได้ (เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาเท่านั้น)

<เดินรถตามทิศทาง>

ไม่สามารถเดินรถไปทางอื่นนอกจากทิศทางที่ลูกศรกำหนดได้ (ตรงไป เลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวาเท่านั้น)

<เดินรถตามทิศทาง>

ไม่สามารถเดินรถไปทางอื่นนอกจากทิศทางที่ลูกศรกำหนดได้ (ซ้ายเท่านั้น)

<ห้ามยานพาหนะข้าม>

ห้ามข้ามตามเครื่องหมายนี้ (เมื่อพยายามแวะข้างทางหรือที่จอดรถ) 

※สามารถเลี้ยวขวาได้ตามปกติ

<ห้ามกลับรถ>

ไม่อนุญาตให้กลับรถ

<ห้ามแซง>

ไม่อนุญาตให้แซงรถคันอื่นทางด้านขวา

<ห้ามจอด>

ไม่สามารถจอดหรือหยุดได้ (เครื่องหมายในช่องซ้ายมือ หมายถึงไม่สามารถจอดหรือหยุดได้ในช่วงเวลา 8.00 น. – 20.00 น.) 

<ห้ามจอด>

ไม่สามารถจอดได้ (เครื่องหมายในช่องซ้ายมือ หมายถึงไม่สามารถจอดหรือหยุดได้ในช่วงเวลา 8.00 น. – 20.00 น.) 
※อนุญาตให้จอดในระยะเวลาสั้นๆ ได้ภายใน 5 นาที (เช่น นำพัสดุลง, หยุดให้ผู้โดยสารลง หรือการหยุดโดยที่ผู้ขับสามารถเลื่อนรถได้ทันที) 

<เขตจอดรถจำกัดเวลา>

อนุญาตให้จอดรถได้ตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น (เครื่องหมายในช่องซ้ายมือ หมายถึงสามารถจอดได้ 60 นาที ในเวลา 8.00 น. – 20.00 น.)

<จำกัดความเร็ว (สูงสุด)>

จำกัดความเร็วยานพาหนะไม่เกินตามที่กำหนดในเครื่องหมาย (ในที่นี้ 50 กม./ชม.) 

<จำกัดความเร็ว (ต่ำสุด)>

จำกัดความเร็วยานพาหนะห้ามต่ำกว่าตามที่กำหนดในเครื่องหมาย (ในที่นี้ 30 กม./ชม.)

<เฉพาะยานพาหนะเท่านั้น>

ไม่อนุญาตคนเดินถนน รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ขนาดเล็ก

<เฉพาะจักรยานเท่านั้น>

ถนนสำหรับจักรยานเท่านั้น รถยนต์ คนเดินถนน ฯลฯ ไม่สามารถใช้ถนนได้

<เฉพาะจักรยานและคนเดินถนนเท่านั้น>

เฉพาะจักรยานและคนเดินถนนเท่านั้นที่สามารถใช้ถนนได้

<เฉพาะคนเดินถนนเท่านั้น>

เฉพาะคนเดินถนนเท่านั้นที่สามารถใช้ถนนได้

<เดินรถทางเดียว>

รถยนต์สามารถเดินรถได้ตามทิศทางที่กำหนดเท่านั้น (ในที่นี้คือทางซ้าย)

<เดินรถทางเดียว>

รถยนต์สามารถเดินรถได้ตามทิศทางที่กำหนดเท่านั้น (ในที่นี้คือตรงไป) 

<เลนเฉพาะ>

เลนพิเศษสำหรับเฉพาะยานพาหนะประเภทที่กำหนดเท่านั้น (ในที่นี้คือรถบัส)

<เลนเฉพาะจักรยาน>

เลนพิเศษสำหรับเฉพาะยานพาหนะประเภทที่กำหนดเท่านั้น (ในที่นี้คือจักรยาน)

<เลนสำรองพิเศษ (Priority Lanes) รวมถึงเลนสำรองสำหรับรถบัส (Bus Priority Lanes)>

สัญลักษณ์นี้ หมายถึง คุณจะต้องเสียสละทางให้กับรถบัส (หรือยานพาหนะที่กำหนด) ก่อนเมื่อใช้เลนนี้ ยานพาหนะอื่นๆ สามารถใช้เลนนี้ได้ แต่หากมีรถบัสเข้าใกล้หรือจอดใกล้ๆ จะต้องเสียสละเปิดทางให้รถบัสก่อน

<เลนกำหนดทิศทาง>

คุณจะต้องเดินรถไปในทิศทางที่กำหนดบนเลน

<เลนกำหนดทิศทาง>

คุณจะต้องเดินรถไปในทิศทางที่กำหนดบนเลน (ในที่นี้หมายถึงเลี้ยวซ้ายหรือตรงไป)

<เลนกำหนดทิศทาง>

คุณจะต้องเดินรถไปในทิศทางที่กำหนดบนเลน (ในที่นี้หมายถึงเลี้ยวซ้ายเท่านั้น)

<เลนกำหนดทิศทาง>

คุณจะต้องเดินรถไปในทิศทางที่กำหนดบนเลน (ในที่นี้หมายถึงตรงไปเท่านั้น)

<วงเวียนตามเข็มนาฬิกา>

คุณจะต้องขับรถในวงเวียนตามเข็มตามเข็มนาฬิกา

<ที่จอดรถแบบขนาน>

ที่จอดรถที่มีสัญลักษณ์นี้ (รวมถึงเขตจอดรถที่จำกัดเวลา) จะต้องจอดขนานกับแนวถนน

<ที่จอดรถแบบตั้งฉาก>

ที่จอดรถที่มีสัญลักษณ์นี้ (รวมถึงเขตจอดรถที่จำกัดเวลา) จะต้องจอดตั้งฉากกับแนวถนน

<ที่จอดรถแบบแนวทแยง>

ที่จอดรถที่มีสัญลักษณ์นี้ (รวมถึงเขตจอดรถที่จำกัดเวลา) จะต้องจอดเป็นแนวทแยงกับแนวถนน

<ให้สัญญาณแตร>

หากเครื่องหมายนี้ปรากฎ คุณจะต้องบีบแตรขณะขับรถ

<ลดความเร็ว>

คุณจะต้องลดความเร็วให้อยู่ในระดับที่สามารถหยุดรถได้ทันที

<ลดความเร็ว>

คุณจะต้องลดความเร็วให้อยู่ในระดับที่สามารถหยุดรถได้ทันที

<หยุด>

คุณจะต้องหยุดรถให้สนิทก่อนที่จะถึงเส้นหยุดหรือเครื่องหมายนี้

<หยุด>

คุณจะต้องหยุดรถให้สนิทก่อนที่จะถึงเส้นหยุดหรือเครื่องหมายนี้

<ห้ามคนเดินถนนผ่าน>

คนเดินถนนห้ามเดินผ่านเครื่องหมายนี้

<ห้ามคนเดินถนนข้าม>

คนเดินถนนห้ามข้ามถนนที่นี่

<ทางเอกตัดกันรูป+>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางแยกรูปกางเขน

<ทางโทแยกทางเอกทางขวา┣ หรือซ้าย ┫>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางแยกรูป ┣ หรือ  ┫

<ทางเอกตัดกันรูปตัว T>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางแยกรูปตัว T

<ทางเอกตัดกันรูปตัว Y>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางแยกรูปตัว Y

<วงเวียน>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีวงเวียน

<ทางโค้งขวา (หรือซ้าย)>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางโค้งขวา (หรือซ้าย)

<ทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวขวา (หรือซ้าย)>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวขวา (หรือซ้าย)

<ทางโค้งกลับเริ่มขวา (หรือซ้าย)>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางโค้งกลับเริ่มขวา (หรือซ้าย)

<ทางโค้งกลับรัศมีแคบเริ่มขวา (หรือซ้าย)>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางโค้งกลับรัศมีแคบเริ่มขวา (หรือซ้าย)

<ทางคดเคี้ยวเริ่มขวา (หรือซ้าย)>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางคดเคี้ยวเริ่มขวา (หรือซ้าย)

<ทางข้ามรถไฟ>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางข้ามรถไฟ

<ทางข้ามรถไฟ>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางข้ามรถไฟ

<โรงเรียน ระวังเด็ก>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีโรงเรียน

<สัญญาณจราจรข้างหน้า>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีสัญญาณจราจร

<ทางลื่น>

Sเครื่องหมายเตือนว่าถนนข้างหน้ามีทางลื่น เนื่องจากทราย ฝน หรือเป็นน้ำแข็ง ฯลฯ

<ระวังหินร่วง>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีจุดเสี่ยงที่หินอาจร่วงลงมาจากถูเขาหรือหน้าผา

<ผิวทางขรุขระ>

เครื่องหมายเตือนว่าถนนข้างหน้าขรุขระ

<ทางร่วมข้างหน้า>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางร่วม

<ทางแคบข้างหน้า>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางแคบ

<ทางแคบลงทั้งสองด้านข้างหน้า>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางแคบลงทั้งสองด้าน

<ทางเดินรถสองทาง>

เครื่องหมายเตือนว่าถนนเป็นทางเดินรถสองทางโดยไม่มีเส้นแบ่งกลาง 

<ทางขึ้นลาดชัน>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางขึ้นลาดชัน (ตัวเลขในเครื่องหมายคือองศาความลาดชัน

<ทางลงลาดชัน>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้ามีทางลงลาดชัน (ตัวเลขในเครื่องหมายคือองศาความลาดชัน

<คนทำงาน>

เครื่องหมายเตือนว่าถนนข้างหน้ากำลังก่อสร้าง

<กระแสลม>

เครื่องหมายเตือนให้ระวังกระแสลมข้างหน้า

<ระวังสัตว์>

เครื่องหมายเตือนว่าอาจมีสัตว์กระโดดข้ามถนน (รวมถึงกวาง ลิง สุนัขจิ้งจอก หมี ฯลฯ) 

<ระวังอันตราย>

เครื่องหมายเตือนว่าข้างหน้าอันตราย

<อนุญาตให้ข้ามทางรางรถไฟได้>

เครื่องหมายแสดงว่ารถสามารถขับข้ามทางรางรถไฟได้ (หากระบุสัญลักษณ์เสริม จะอนุญาตเฉพาะรถประเภทดังกล่าวเท่านั้น)

<อนุญาตให้จอดรถได้>

เครื่องหมายแสดงว่าอนุญาติให้จอดหรือหยุดได้

<อนุญาตให้หยุดรถได้>

เครื่องหมายแสดงว่าอนุญาตให้หยุดได้

<ให้สิทธิ์รถคันอื่น>

เครื่องหมายแสดงว่าถนนเส้นที่กำหนดนี้เป็นถนนสำรองที่ต้องให้สิทธิ์รถคันอื่นก่อน

<เส้นทางหลัก>

เครื่องหมายแสดงว่าจุดที่ลูกศรชี้ลงนั้นคือกึ่งกลางของถนน

<เส้นหยุด>

เครื่องหมายแสดงเส้นหยุดสำหรับหยุดยานพาหนะ

<ทางข้ามหรือทางม้าลาย>

เครื่องหมายแสดงว่ามีคนเดินถนนข้ามที่นี่

<ทางข้ามหรือทางม้าลาย>

เครื่องหมายแสดงว่ามีคนเดินถนนเดินข้ามที่นี่

<เขตปลอดภัย>

เครื่องหมายแสดงว่ามีเขตปลอดภัยที่นี่สำหรับผู้ที่ขึ้นหรือลงรถไฟ หรือคนเดินถนนที่กำลังข้ามถนน (ยานพาหนะไม่สามารถเข้าได้)

<ป้ายประกาศบังคับ>

สัญญาณแจ้งเตือนว่ามีการบังคับใช้กฎจราจรที่แสดงอยู่ข้างหน้า (ภาพด้านซ้าย คือ ถนนปิดใน 100 เมตรข้างหน้า)

<ป้ายประกาศบังคับ>

เครื่องหมายแสดงว่ามีการบังคับใช้กฎจราจรตามเครื่องหมายที่ได้แสดงก่อนหน้า (ภาพด้านซ้ายแสดงว่าถนนข้างหน้าถูกปิดและต้องอ้อม)

<ระยะทางจุดพักรถ>

ป้ายบอกระยะทางก่อนจะถึงจุดพักรถ

 

Read More

กฎจราจรในญี่ปุ่น

ในการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น คุณสามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟ รถบัส เพื่อเดินทางได้ แต่รถเช่าอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับใครที่นำกระเป๋าเดินทางมาจำนวนมาก หรือต้องการชมจุดท่องเที่ยวน่าสนใจที่ต้องเดินทางไปได้ด้วยรถยนต์เท่านั้น

ทั้งนี้ หลายๆ คนอาจกังวลเกี่ยวกับการขับรถในญี่ปุ่น เพราะอาจจะไม่คุ้นเคยกับกฎจราจรของประเทศญี่ปุ่น บทความนี้เราได้รวบรวมกฎที่สำคัญๆ ในการขับรถในญี่ปุ่นไว้ ซึ่งให้คุณสามารถขับรถในญี่ปุ่นได้อย่างหายห่วง! หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถคลิกที่ลิงก์เครื่องหมายจราจรที่อยู่ด้านล่างบทความนี้ได้

1. ขับรถเลนซ้าย

ที่ญี่ปุ่น ทุกคนขับรถเลนซ้าย

2. สัญญาณไฟ

ที่ญี่ปุ่น คุณจะไม่สามารถเลี้ยวขวาหรือเลี้ยวซ้ายได้ถ้าเกิดสัญญาณไฟเป็นสีแดง ซึ่งอาจจะต่างกับบางประเทศ – “ห้ามเลี้ยวขวาเมื่อไฟแดง” คุณสามารถเลี้ยวได้ต่อเมื่อสัญญาณไฟเป็นสีเขียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสัญญาณไฟจะเป็นสีเขียวแล้ว ก็ต้องให้ความสำคัญกับผู้เดินถนนก่อน

3. จำกัดความเร็ว

ที่ญี่ปุ่น ความเร็ว‌ที่‌จำกัด‌ตาม‌กฎหมาย‌คือ 60 กิโลเมตร‌ต่อ‌ชั่วโมง‌บน‌ถนน‌ทั่วไป‌และ
100 กิโลเมตร‌ต่อ‌ชั่วโมง‌บน‌ทางด่วน การจำกัดความเร็วของถนนบางแห่งอาจจะสูงกว่าหรือต่ำกว่าตัวเลขข้างต้น เพราะฉะนั้นขณะขับขี่อย่าลืมเช็คป้ายจำกัดความเร็วบนถนนด้วย หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ คุณจะต้องเสียค่าปรับ (ที่แพงมาก) ขอให้เคารพกฎหมายจำกัดความเร็วและขับขี่อย่างปลอดภัย

4. เครื่องหมายหยุด

เมื่อเห็นสัญลักษณ์อันใดอันหนึ่งข้างบนนี้ คุณจะต้องหยุดรถให้สนิทสักครู่ก่อนจะถึงเส้นหยุดหรือทางแยกที่มีสัญญาณไฟ (ทั้งสองป้ายมีความหมายเหมือนกัน) นอกจากนี้ คุณจะต้องไม่จอดขวางทางแยกเพื่อให้รถคันอื่นๆ สามารถข้ามได้ 

5. ลดความเร็ว

เมื่อเห็นสัญลักษณ์อันใดอันหนึ่งข้างบนนี้ คุณจะต้องลดความเร็วให้ถึงในระดับที่สามารถหยุดรถได้ทันที ทั้งสองป้ายมีความหมายเหมือนกัน

6. เขตห้ามเปลี่ยนเลน

ห้ามเปลี่ยนเลน (ห้ามแซง) ในบริเวณที่มีเส้นทึบสีเหลืองบนถนน

7. เลนจักรยาน

เลนจักรยานสำหรับจักรยานเท่านั้น ถ้าคุณใช้รถยนต์จะไม่สามารถใช้เลนนี้ได้

8. เลนเฉพาะ เช่น เลนรถบัส

สัญลักษณ์นี้ หมายถึง เลนนี้กำหนดใช้เฉพาะยานพาหนะตามประเภทที่ระบุเท่านั้น เช่น รถบัส

9. เลนสำรองพิเศษ (Priority Lanes) รวมถึงเลนสำรองพิเศษสำหรับรถบัส (Bus Priority Lanes)

สัญลักษณ์นี้ หมายถึง คุณจะต้องเอื้อเฟื้อทางให้กับรถบัส (หรือยานพาหนะที่กำหนด) ก่อนเมื่อใช้เลนนี้ ยานพาหนะอื่นๆ ก็สามารถใช้เลนนี้ได้เช่นกัน แต่หากมีรถบัสเข้าใกล้หรือจอดใกล้ๆ คุณจะต้องเสียสละเปิดทางให้รถบัสก่อน

คลิกเครื่องหมายจราจรที่นี่ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องหมายจราจรในญี่ปุ่น

Read More

เกี่ยวกับบัตร ETC & Expressway Pass ของ ToCoo!

บทความนี้จะมาอธิบายเกี่ยวกับระบบ ETC  ใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะใช้บัตร ETC แบบไหนดี เชิญทางนี้เลย~

บัตร ETC คืออะไร?

บัตร ETC คือบัตรที่เอาไว้ใช้กับระบบ ETC (Electronic Toll Collection) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการบันทึกการใช้งานทางด่วนโดยอัตโนมัติ เมื่อใช้บัตร ETC คุณไม่จำเป็นต้องรู้ภาษาญี่ปุ่น ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสด และไม่จำเป็นต้องหยุดทุกๆ ครั้งที่ผ่านด่านเก็บค่าทางด่วน ระบบนี้จึงเป็นระบบที่สะดวกมากๆ! ส่วนเครื่องอ่านบัตรนั้น โดยมาตรฐานแล้วจะถูกติดตั้งในรถเช่าทุกคันในญี่ปุ่น เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เพียงแค่เสียบบัตรเข้าเครื่องอ่าน แล้วก็พร้อมออกเดินทางได้เลย! บัตร ETC หรือพาสต่างๆ มีให้ใช้งานหลายประเภท อ่านต่อไปจนถึงประเด็นหลักกันเลย~

Expressway Pass คืออะไร?

Expressway Pass ก็คือ บัตร ETC แบบพิเศษ เป็นพาสที่เหมาจ่ายในราคาที่กำหนดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก็จะสามารถใช้ทางด่วนได้ไม่จำกัด! พาสแบบนี้มีประเภทให้เลือกใช้งานเยอะมากๆ แต่มี 4 ตัวที่คุณสามารถจองผ่าน  ToCoo! ได้ค่ะ นอกจากนี้ อย่าลืมว่า Expressway Pass ไม่สามารถจองแบบเดี่ยวๆ ได้นะคะ จะต้องจองพร้อมรถเช่าเท่านั้นค่ะ

ประเภท ETC แต่ละตัวจะมีพื้นที่ใช้งานครอบคลุมต่างกันไป อย่าเพิ่งเบื่อน้า อ่านกันต่อเล้ย!

  พื้นที่ครอบคลุม  Unlimited สถานที่รับบัตร ETC   
บัตร ETC ทั่วประเทศ × ที่ทำการไปรษณีย์/โรงแรม
TEP ทั่วประเทศ  ที่ทำการไปรษณีย์/โรงแรม
ToCoo! Unlimited ETC Pass ทั่วประเทศ  ที่ทำการไปรษณีย์/โรงแรม
TEP Hokkaido ฮอกไกโด   ที่ทำการไปรษณีย์/โรงแรม

ประเภทบัตร ETC

1. บัตร ETC (ทั่วประเทศ)
คุณสามารถจองบัตร ETC แบบเดี่ยวๆ ได้โดยไม่ใช้ Expressway Pass หลังจากคืนบัตรเมื่อคืนรถเช่าเสร็จแล้ว ค่าทางด่วนที่ใช้งานจริงจะถูกตัดผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ค่ะ กล่าวคือ เมื่อทาง ToCoo! ได้รับบัตร ETC คืนแล้ว เราจะตรวจสอบการใช้งานทางด่วนกับทางบริษัท NEXCO (ผู้ให้บริการทางด่วนในญี่ปุ่น) กรณีเช่าบัตร ETC ของ ToCoo! สามารถรับบัตรได้จากที่ทำการไปรษณีย์หรือโรงแรมได้ แต่ไม่สามารถเลือกรับบัตรจากที่สาขารถเช่าได้เนื่องจากทางบริษัทรถเช่าไม่มีบริการรับพัสดุค่ะ 

สามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบัตร ETC ของ ToCoo! ได้ด้านล่างค่ะ
https://x.gd/JKxHy

*หมายเหตุ*
การเช่าบัตร ETC ของ ToCoo! จะมีการกันเงิน (Hold) ค่ามัดจำ (Deposit) 15,000 เยน ตามที่เราได้ระบุไว้บนแบบฟอร์มการจองค่ะ
เมื่อเราได้รับบัตรคืน เราจะคำนวนค่าทางด่วนที่คุณลูกค้าได้ใช้งานและเรียกเก็บเงินค่าทางด่วนนั้นจากบัตรเครดิตที่ได้ลงทะเบียนไว้ หลังจากค่าใช้จ่ายคอนเฟิร์มแล้ว เงินมัดจำ 15,000 เยนจะถูกปลดล็อก (Release) โดยทันทีค่ะ

พื้นที่ครอบคลุมระบบ ETC

2. ToCoo Expressway Pass (ทั่วประเทศ)
ToCoo Expressway Pass หรือ TEP นั้น เป็นบัตร ETC พิเศษออริจินัลที่ให้บริการโดย ToCoo!  เท่านั้น พาสนี้สามารถใช้กับทางด่วนทั่วญี่ปุ่นได้ไม่จำกัดค่ะ! TEP สามารถจองได้จากแพลน TEP เท่านั้น แถมค่าใช้จ่ายก็ชำระตอนทำการจองเลย จึงเป็นแพลนที่สะดวกสุดๆ! เพียงรับบัตรจากที่ทำการไปรษณีย์หรือโรงแรม เริ่มต้นใช้งาน ขับรถชิลๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าทางด่วนอีก (เพราะเหมาจ่ายไปเรียบร้อยแล้ว) เมื่อถึงวันคืนรถเช่า เพียงแค่นำรถไปคืน และคืนบัตรที่ตู้ไปรษณีย์ เป็นอันเสร็จสิ้น! ง่ายมากๆ บัตร ETC ที่ใช้กับแพลน TEP สามารถรับได้จากที่ทำการไปรษณีย์หรือโรงแรม จะไม่สามารถรับจากสาขารถเช่าได้เนื่องจากบริษัทรถเช่าไม่มีบริการรับพัสดุค่ะ

เช็ครายละเอียดแพลนได้ที่นี่! → ToCoo Expressway Pass Plan

เขตพื้นที่ครอบคลุม TEP

3. ToCoo! Unlimited ETC Pass (ทั่วประเทศ)
ToCoo! Unlimited ETC Pass จะเป็นบัตร ETC พิเศษคล้ายกับ TEP แต่ความแตกต่างก็คือ ToCoo! Unlimited ETC Pass สามารถเพิ่มเป็นออฟชั่นเสริมได้กับเกือบทุกการจอง ค่าใช้จ่ายของออฟชั่น ToCoo! Unlimited ETC Pass จะชำระตอนทำการจองเหมือนกับ TEP เลย จึงเป็นออฟชั่นที่สะดวกมาก บัตร ETC ที่ใช้กับ ToCoo! Unlimited ETC Pass สามารถรับได้จากที่ทำการไปรษณีย์หรือโรงแรม จะไม่สามารถรับจากสาขารถเช่าได้เนื่องจากบริษัทรถเช่าไม่มีบริการรับพัสดุค่ะ
★TEP กับ ToCoo! Unlimited ETC Pass ต่างกันยังไง?
ความแตกต่างของสองตัวนี้คือ ToCoo! Unlimited ETC Pass สามารถเพิ่มในการจองได้ทุกแพลนที่ให้บริการ ค่าใช้จ่ายจึงจะสูงกว่า TEP นิดหน่อยค่ะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ → ToCoo! Unlimited ETC Pass

เขตพื้นที่ครอบคลุม ToCoo! Unlimited ETC Pass

4. TEP Hokkaido (ฮอกไกโด)
ตัวนี้จะคล้ายกับ TEP เป็นบัตร ETC พิเศษออริจินัลที่ให้บริการโดย ToCoo! เท่านั้น สามารถใช้งานทางด่วนได้ไม่จำกัดในพื้นที่ฮอกไกโดเท่านั้น เพราะฉะนั้น สำหรับผู้ที่จะท่องเที่ยวในฮอกไกโด เราแนะนำแพลนนี้เลยค่ะ!  สำหรับแพลน TEP Hokkaido สามารถรับบัตร ETC ได้จากจากที่ทำการไปรษณีย์หรือโรงแรม จะไม่สามารถรับจากสาขารถเช่าได้เนื่องจากบริษัทรถเช่าไม่มีบริการรับพัสดุค่ะ ข้อดีของแพลน TEP Hokkaido คือ สามารถเลือกคืนรถที่สาขาใดก็ได้!

เช็คแพลนนี้ได้ที่นี่! → TEP Hokkaido

เขตพื้นที่ครอบคลุม TEP Hokkaido

・สำหรับ KEP ,CEP, HEP ฯลฯแพ็คเกจทางด่วนทั้งหมดของ NEXCO Japan
ทางเราต้องขออภัยที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า KEP, CEP, HEP ฯลฯแพ็คเกจทางด่วนทั้งหมดของ NEXCO Japan นำเสนอนั้นไม่สามารถซื้อหรือจองผ่าน ToCoo ได้ค่ะ

ทางเรามีแค่ TEP และ ToCoo! Unlimited ETC Pass ให้บริการในส่วนของพาสทางด่วนแบบเหมาจ่ายเท่านั้นค่ะ

หากคุณต้องการ KEP, CEP, HEP และอื่นๆ กรุณาทำการจองแบบที่ไม่มีการเลือก/ใส่ออฟชั่นบัตร ETC ในการจอง

จากนั้นตรวจสอบกับร้านรถเช่าของคุณเพื่อดูว่ามีให้บริการหรือไม่ค่ะ

สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง:
KEP URL: https://global.w-nexco.co.jp/en/kep/
HEP URL: https://en.driveplaza.com/drawari/hokkaido_expass/
SEP URL: https://global.w-nexco.co.jp/en/sep/
CEP URL: https://hayatabi.c-nexco.co.jp/cep/en/

สรุป

ข้อมูลอาจจะเยอะจนชวนสับสนไปบ้าง แต่เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย อย่าลืมนะคะ! เช็ครายละเอียดทริปของตัวเองให้ดีๆ ก่อนจะเลือกบัตร ETC ที่เหมาะสมที่สุด และเช่นเดิม หากมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถคอมเมนต์ข้างล่างนี้หรือติดต่อผ่านแบบฟอร์มสอบถามของเว็บไซต์เราได้ค่ะ

Read More

ร่วมเป็นแอฟฟิลิเอตพาร์ทเนอร์กับ ToCoo!

โปรโมท ToCoo! บริการรถเช่า บนเว็บไซต์ของคุณ!
บริการรถเช่า ToCoo! กำลังมองหาแอฟฟิลิเอตพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยโปรโมทบริการรถเช่าของเราบนเว็บไซต์ของคุณ
การเข้าร่วมเป็นแอฟฟิลิเอตพาร์ทเนอร์จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะฉะนั้นผู้ที่เข้าร่วมจะสามารถรับค่าคอมคอมมิชชั่นได้โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ มาใช้โอกาสนี้เข้าร่วมเป็นแอฟฟิลิเอตพาร์ทเนอร์กับ ToCoo! กัน!
*ทั้งนี้ เพื่อการคุ้มครองพาร์ทเนอร์ที่ในขณะนี้ได้ทำสัญญากับเราเรียบร้อยแล้ว เราจะมีการจำกัดจำนวนพาร์ทเนอร์ และเราอาจปฎิเสธการลงทะเบียนในบางกรณี ด้วยเหตุนี้ เราจึงแนะนำให้คุณดำเนินการลงทะเบียนล่วงหน้าโดยเร็วที่สุด

  1. วางลิงก์ของ ToCoo! บนเว็บไซต์ของคุณ
  2. ยูสเซอร์เข้าสู่ ToCoo! จากช่องทางลิงก์บนเว็บไซต์ของคุณ และดำเนินการจองรถ
  3. เราจะจ่ายค่าตอบแทนสำหรับแอฟฟิลิเอตตามจำนวนรายการจอง

■เกี่ยวกับแอฟฟิลิเอตโปรแกรม
1) เงื่อนไขการเข้าร่วม
เว็บไซต์ดังต่อไปนี้ ไม่สามารถเข้ารวมได้
・ เว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่/เว็บไซต์ลามก
・ เว็บไซต์องค์กรอาชญากรรม
・ เว็บไซต์ที่ละเมิดสิทธิ์ภาพบุคคลและลิขสิทธิ์
・ เว็บไซต์ที่ทำให้ยูสเซอร์เข้าใจผิดในเว็บไซต์ทางการของเรา หรือที่ความเสี่ยงดังกล่าว
・ เว็บไซต์อื่นๆ ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของเรา

2) ค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วม
ค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วม ฟรี

3) ค่าคอมมิชชั่นแอฟฟิลิเอต
ค่าคอมมิชชั่นแอฟฟิลิเอตพื้นฐาน คือ 3% ของค่าเช่ารถพื้นฐาน ยอดเงินจะได้รับการคอนเฟิร์มหลังสิ้นสุดระยะเวลาการใช้รถเช่า
ค่าคอมมิชชั่นแอฟฟิลิเอตจะชำระตามจำนวนรายการจอง
ค่าระบบยกเว้นการชดใช้ค่าเสียหาย, ค่าออฟชั่น, ค่าคืนรถต่างสาขา และ T.A.S. จะไม่รวมอยู่ในยอดค่าคอมมิชชั่น
ในบางกรณีเราอาจเสนอเพิ่มค่าคอมมิชชั่น ขึ้นอยู่กับขนาดของเว็บไซต์

ตัวอย่าง: 30 รายการจอง/เดือน
ค่าเช่ารถพื้นฐาน: 9,000 เยน/วัน (โดยเฉลี่ย)
จำนวนวันใช้งาน: 5 วัน (โดยเฉลี่ย 5.2 วัน)
คอมมิชชั่น: 9,000 เยน × 5 วัน × 3% = 1,350 เยนต่อ 1 รายการจอง × 30 รายการจอง = 40,500 เยน/เดือน

4) ยอดเงินค่าคอมมิชชั่น
เราจะชำระค่าคอมมิชชั่นเมื่อค่าคอมมิชชั่นมียอดรวมเกิน 2,000 เยน
ตัวอย่าง: กรณีค่าคอมมิชชั่นของเดือนมกราคมคือ 6,000 เยน ยอดเงิน 6,000 เยนจะถูกชำระในเดือนกุมภาพันธ์
ตัวอย่าง: กรณีค่าคอมมิชชั่นของเดือนกุมภาพันธ์คือ 1,000 เยน และค่าคอมมิชชั่นของเดือนมีนาคมคือ 3,000 เยน ยอดเงิน 4,000 เยน จะถูกชำระในเดือนเมษายน

5) ช่องทางการโอนเงิน
โดยพื้นฐาน เราจะโอนยอดเงินไปยังบัญชีธนาคารของคุณโดยตรง
กรณีต้องการรับเงินด้วยช่องทางอื่น เราจะรับคำปรึกษาแยกต่างหากโดยการติดต่อทางอีเมล

■วิธีสมัคร
โปรดส่งแบบฟอร์มการสมัครผ่านลิงก์ดังต่อไปนี้

https://forms.gle/RT6koowLRddd2qyz6

หลังจากส่งแบบฟอร์มแล้ว เราจะทำการติดต่อกลับภายใน 2-3 วันทำการ


หากมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถติดต่อเราได้ที่แบบฟอร์มติดต่อสอบถามบนเว็บไซต์ค่ะ

Read More

เกี่ยวกับบริการโทรศัพท์แปลภาษา

  1. บริการโทรศัพท์แปลภาษาคืออะไร?
  2. สามารถใช้บริการโทรศัพท์แปลภาษาได้เมื่อไหร่?
  3. วิธีใช้บริการโทรศัพท์แปลภาษา
  4. ข้อควรระวัง

1. บริการโทรศัพท์แปลภาษาคืออะไร?

บริการโทรศัพท์แปลภาษา คือบริการล่ามแปลภาษาผ่านโทรศัพท์ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมงในกรณีเกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์หรือสถานที่ใดค่ะ หากมีบริการนี้ คุณจะสามารถเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจตลอดทริป
บริการล่ามแปลภาษา: ญี่ปุ่น, อังกฤษ, จีน, เกาหลี, ไทย
สามารถใช้บริการโทรศัพท์แปลภาษาได้ ไม่เพียงแค่ตอนใช้รถเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้บริการได้ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ใดๆ เช่นสถานการณ์ดังต่อไปนี้ค่ะ

<เมื่อเกิดคำถามหรือข้อสงสัยระหว่างช็อปปิ้ง>

<เมื่อต้องการล่ามแปลภาษาในร้านอาหาร>

<เมื่อต้องการถามทาง>

*บริการโทรศัพท์แปลภาษา ไม่สามารถตอบคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ ที่อยู่นอกเหนือจุดประสงค์การแปลภาษาได้


2. สามารถใช้บริการโทรศัพท์แปลภาษาได้เมื่อไหร่?

บริการนี้มีให้บริการทุกวัน 24 ชั่วโมงภายในช่วงที่ใช้รถเช่า คุณสามารถใช้บริการนี้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง


3. วิธีใช้บริการโทรศัพท์แปลภาษา

① ตรวจสอบว่าในหมายเลขการจองของคุณมีบริการโทรศัพท์แปลภาษาหรือไม่ คุณสามารถตรวจสอบได้จากอีเมล “ยืนยันการจอง” ค่ะ หากมีบริการโทรศัพท์แปลภาษาอยู่ในรายการ ToCoo! options แสดงว่าสามารถใช้บริการได้ค่ะ

② เมื่อต้องการใช้บริการโทรศัพท์แปลภาษาในช่วงระหว่างการใช้รถเช่า ให้โทรศัพท์ไปยังเบอร์โทรศัพท์เฉพาะที่ให้บริการโทรศัพท์แปลภาษา และแจ้งหมายเลขอ้างอิงให้โอเปอเรเตอร์ทราบ
*ทางเราจะส่งเบอร์โทรศัพท์และหมายเลขอ้างอิงผ่านอีเมลภายใน 1-3 วันก่อนวันเริ่มใช้รถ
*บริการแปลจะให้บริการเฉพาะทางโทรศัพท์เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับโทรศัพท์ที่ใช้เฉพาะอินเทอร์เน็ตได้ (เช่น โทรศัพท์ผ่าน Line, โทรศัพท์ผ่าน WhatsApp เป็นต้น)

③ อธิบายสถานการณ์ให้โอเปอเรเตอร์ทราบ และแจ้งว่าต้องการให้แปลสิ่งใด แล้วจึงส่งโทรศัพท์ให้ผู้ที่ต้องการสื่อสารด้วย

④ เมื่อเสร็จสิ้นการแปลแล้ว กรุณาวางสาย




4. ข้อควรระวัง

① บริการล่ามแปลภาษาสามารถใช้ได้เพียงเฉพาะสถานการณ์ที่ผู้สื่อสารและผู้รับสารอยู่ด้วยกันในสถานที่จริงเท่านั้น การแปลในสถานการณ์ที่คุณไม่ได้อยู่กับผู้รับสารขณะที่ใช้โทรศัพท์ ไม่สามารถทำได้

② บริการโทรศัพท์แปลภาษา ไม่สามารถใช้ภายใต้จุดประสงค์ Customer Service (บริการลูกค้า) ได้ค่ะ
เราไม่สามารถให้บริการล่ามในสถานการณ์ที่อยู่นอกจุดประสงค์การแปลได้เช่น ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบริการ หรือเป็นตัวแทนในการเจรจาต่อรองในสถานการณ์ต่างๆ เช่น เมื่อรถมีปัญหา เป็นต้น

③ หากไม่มีหมายเลขอ้างอิง คุณจะไม่สามารถใช้บริการโทรศัพท์แปลภาษาได้ค่ะ หากคุณไม่ได้รับอีเมลแจ้งเบอร์โทรศัพท์สายแปลภาษาและหมายเลขอ้างอิงภายใน 1 วันก่อนวันเริ่มเช่ารถ กรุณาติดต่อเราที่ แบบฟอร์มติดต่อสอบถาม

④ ค่าโทรศัพท์ใดๆ ที่เกิดขึ้น จะต้องจ่ายโดยตัวลูกค้าเอง

หากมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถติดต่อเราได้ที่ แบบฟอร์มติดต่อสอบถาม ค่ะ

Read More

เกี่ยวกับบริการให้ข้อมูล MAPCODE

  1. Map Code คืออะไร?
  2. วิธีการใช้บริการ Map Code
  3. ข้อควรระวัง

1. Map Code คืออะไร?

Map Code คือระบบโค้ดหมายเลขที่สามารถเซ็ทจุดหมายปลายทางได้ง่ายๆ เมื่อคุณใช้งาน GPS ในรถค่ะ
คุณสามารถรู้สถานที่ตั้งทุกที่ในญี่ปุ่นได้ เพียงแค่ใส่ตัวเลข Map Code 6-12 หลัก
เช่น Tokyo Sky Tree: 742 740 * 81

2. วิธีการใช้บริการ Map Code

① ตรวจสอบว่าในหมายเลขการจองของคุณมีบริการ Map Code หรือไม่ คุณสามารถตรวจสอบได้จากอีเมล “ยืนยันการจอง” ค่ะ
*หากคุณตรงกับเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ แสดงว่าการจองของคุณมีบริการ Map Code ค่ะ
· มีบริการ Map Code อยู่ในรายการ ToCoo! options
· แพลนเช่ารถของคุณคือแพลน ToCoo! Traveler Support

② ส่งคำขอค้นหา Map Code
คุณสามารถขอ Map Code ได้สูงสุด 10 โค้ดต่อ 1 หมายเลขการจอง
หมายเหตุ: กรุณาส่งคำขอค้นหา Map Code อย่างน้อย 4 วันก่อนวันเริ่มใช้รถ

ส่งข้อมูลสถานที่ปลายทาง 10 สถานที่ที่คุณต้องการรับ Map Code ผ่านแบบฟอร์มแจ้งขอรับ MAPCODE ดังต่อไปนี้
https://forms.gle/3cSPwdrPFar1JyeK6

เพื่อที่จะค้นหา Map Code ทางเราต้องการข้อมูลอย่างละเอียด เช่น ชื่อจุดท่องเที่ยว, ชื่อสถานที่,ที่อยู่, หรือหมายเลขโทรศัพท์ หากข้อมูลคลุมเครือหรือไม่ชัดเจน ทางเราไม่สามารถค้นหา Map Code ของสถานที่นั้นๆ ได้ค่ะ

ตัวอย่างดี (สามารถตรวจสอบความถูกต้องของสถานที่นั้นๆ ได้ง่าย):
· “Tokyo Sky Tree
Oshigami Sumida-ku, Tokyo 101-0045 Tokyo
หมายเลขโทรศัพท์ 000-0000-0000″

ตัวอย่างไม่ดี (ยากต่อการค้นหา Map Code)
· “เมือง Sapporo Hokkaido” (เป็นพื้นที่กว้างและไม่สามารถระบุตำแหน่งแน่นอนได้)
· “จาก Kawaguchiko ไปยัง Tokyo” (ไม่มี Map Code สำหรับเส้นทาง)

③ หลังจากรับคำขอจากคุณแล้ว ทางเราจะค้นหา Map Code ภายใน 2 วันทำการ และจะแจ้งไปยังอีเมลที่คุณได้ลงทะเบียนไว้ตอนทำการจองค่ะ

④ ใส่ Map Code ที่ได้รับทางอีเมลลงไปในระบบนำทางหรือ Navigation ในรถ และเริ่มใช้งาน
ในการใส่โค้ด กรุณาใส่ * (เครื่องหมายดอกจัน) และเว้นวรรคด้วย
*ระบบนำทางในรถบางคันอาจไม่สามารถใส่สัญลักษณ์ต่างๆ หรือเว้นวรรคได้ หากเป็นกรณีนี้ กรุณาลองวิธีดังต่อไปนี้ดูค่ะ
■กรณีไม่สามารถใส่เว้นวรรคได้: ลองใส่เฉพาะหมายเลข
■กรณีไม่สามารถใส่ * (เครื่องหมายดอกจัน): ลองใส่เฉพาะหมายเลขโดยไม่ต้องใส่ * (เครื่องหมายดอกจัน)
*หากไม่ทราบวิธีการใช้ระบบเนวิเกชั่นในรถ กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่พนักงาน ณ สาขารถเช่าในวันรับรถ

3. ข้อควรระวัง

① เนื่องจากอาจต้องใช้ระยะเวลาในการตอบคำขอค้นหา Map Code ที่ส่งในระหว่างปิดทำการ (เสาร์-อาทิตย์/วันหยุดราชการ) มากกว่า 2 วันทำการ กรุณาส่งคำขอ Map Code โดยเร็วที่สุด
② ไม่ว่าระยะเวลาการใช้รถจะนานแค่ใด 1 หมายเลขการจองสามารถขอคำร้อง Map Code ได้สูงสุด 10 โค้ดเท่านั้น
หากต้องการมากกว่า 10 โค้ด จะคิดค่าบริการเพิ่มเติม 200 เยนต่อ 1 โค้ด

หากมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถติดต่อเราได้ที่นี่:
แบบฟอร์มติดต่อสอบถาม

Read More

เกี่ยวกับ Hokkaido Expressway Pass (HEP)/Kyushu Expressway Pass (KEP)/Tohoku Expressway Pass

  1. Hokkaido Expressway Pass (HEP)/Kyushu Expressway Pass (KEP)/Tohoku Expressway Pass คืออะไร?
  2. ระยะเวลาในการใช้งาน
  3. วิธีการใช้งาน
  4. ข้อควรระวัง

*ต่อไปนี้จะขอใช้คำย่อ “HEP” แทน Hokkaido Expressway Pass และ “KEP” แทน Kyushu Expressway Pass ค่ะ

1. HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass คืออะไร?

Expressway Pass คือแพลนที่จะให้คุณสามารถใช้ทางด่วนในญี่ปุ่นได้ไม่จำกัด ด้วยราคาเหมาจ่ายที่กำหนด
HEP คือแพลนที่จะให้คุณได้ใช้ทางด่วนภายในพื้นที่ที่กำหนดในฮอกไกโดได้ไม่จำกัด ด้วยราคาเหมาจ่ายที่กำหนด
KEP คือแพลนที่จะให้คุณสามารถใช้ทางด่วนภายในพื้นที่ที่กำหนดในภูมิภาคคิวชูได้ไม่จำกัด ด้วยราคาเหมาจ่ายที่กำหนด
Tohoku Expressway Pass คือแพลนที่จะให้คุณสามารถใช้ทางด่วนภายในพื้นที่ที่กำหนดในภูมิภาคโทโฮคุได้ไม่จำกัด ด้วยราคาเหมาจ่าย

*ทางด่วนบางที่ ไม่อยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของ Expressway Pass รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทางด่วนที่คลอบคลุมของพาสต่างๆ กรุณาตรวจสอบที่เว็บไซต์ NEXCO ข้างล่างนี้
HEP: https://www.driveplaza.com/trip/drawari/hokkaido_expass/th.html
KEP: https://global.w-nexco.co.jp/en/kep/
Tohoku Expressway Pass: https://www.driveplaza.com/trip/drawari/tep2015/th.html

*ในการใช้ Expressway Pass คุณจำเป็นต้องใช้ ETC Card พิเศษที่เป็นพาสเหล่านี้โดยเฉพาะค่ะ กรณีจองรถเช่าจากแพลน HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass plan ผ่าน ToCoo! จะไม่จำเป็นต้องเช่าบัตร ETC แยกต่างหากค่ะ บัตร ETC จากแพลนดังกล่าวจะถูกจัดเตรียมโดยบริษัทรถเช่า คุณไม่จำเป็นต้องเช่า ToCoo! ETC card ค่ะ

2. ระยะเวลาในการใช้งาน

ระยะเวลาในการใช้งานจะต้องเท่ากับระยะเวลาในการเช่ารถค่ะ
*การใช้ Expressway Pass ในระยะเวลาที่ไม่ตรงกับระยะเวลาเช่ารถไม่สามารถทำได้ค่ะ

3. วิธีการใช้งาน

① ตรวจสอบว่าในการจองของคุณ มี HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass หรือไม่ คุณสามารถตรวจสอบได้จากอีเมล์ “ยืนยันการจอง” ค่ะ
*หากคุณตรงกับเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ แสดงว่าการจองของคุณมีแพลน HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass รวมอยู่ด้วยค่ะ
・มี “HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass” เขียนไว้ในชื่อแพลน ในอีเมลยืนยันการจอง
・มี “HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass” เขียนไว้ในออฟชั่น ข้างล่างชื่อแพลน (ไม่ใช่ ToCoo! option)
② รับ ETC card ที่สาขารถเช่า
③ ชำระค่า HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass ณ สาขาเช่ารถ
*ค่า HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass ไม่รวมอยู่ในค่าเช่ารถ
กรุณาตรวจสอบราคา <ที่นี่>
④ เสียบบัตร ETC เข้าในเครื่องอ่านบัตร ETC ที่ติดตั้งในรถเช่า และเริ่มใช้งาน
*สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้บัตร ETC และเครื่องอ่านบัตร ETC กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่พนักงาน ณ สาขารถเช่าค่ะ
⑤ คืนบัตร ETC ณ สาขาเช่ารถในวันคืนรถ

4. ข้อควรระวัง

*ระยะเวลาการใช้งาน HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
*หากจองแพลน HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass ไว้ แต่ไม่ต้องการใช้แล้ว กรุณายกเลิกการจองและทำการรีบุ๊คใหม่ หรือทำการลงทะเบียนยกเลิก HEP/KEP/Tohoku Expressway Pass ในวันรับรถ โปรดทราบว่าบางบริษัทรถเช่าไม่สามารถยกเลิกได้

หากมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถติดต่อเราได้ที่นี่:
แบบฟอร์มติดต่อสอบถาม

Read More

การขับขี่เมื่อเกิดภัยธรรมชาติในญี่ปุ่น

หากเกิดแผ่นดินไหว ฝนตกหนัก หรือภัยธรรมชาติอื่นๆ ขณะกำลังใช้รถในญี่ปุ่น ควรทำอย่างไรดี?

ทางเราขอแนะนำข้อควรระวังในการขับรถในญี่ปุ่นเมื่อเกิดภัยทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ฝนตกหนัก เป็นต้น ในบทความนี้ค่ะ

1. แผ่นดินไหว

■กรณีเกิดแผ่นดินไหวในขณะขับรถ
หากเกิดแผ่นดินไหวในขณะขับรถ ให้เปิดไฟฉุกเฉิน และตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบของตัวรถและผู้เดินเท้าบนถนน และค่อยๆ เบี่ยงรถไปที่ไหล่ทาง แล้วจึงหยุดรถ
หากหยุดรถกะทันหัน อาจถูกชนจากรถข้างหลังได้ เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ให้ลดความเร็วก่อนที่จะหยุดรถ
กรุณารอจนกว่าแผ่นดินไหวเบาลงโดยไม่ลงจากรถ และใช้สมาร์ทโฟนหรือมือถือตรวจสอบสถานการณ์ ระดับความรุนแรง ความเสียหายของแผ่นดินไหว ฯลฯ

■กรณีลงจากรถและทำการอพยพ
กรณีการประกาศเตือนภัยสึนามิ หรือถนนเกิดความเสียหายจนไม่สามารถขับขี่ได้ ให้ดับเครื่องยนต์ ปิดหน้าต่าง โดยที่ไม่ต้องดึงกุญแจรถออก และให้ลงจากรถไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย
การเสียบกุญแจทิ้งไว้ จะทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสามารถเคลื่อนที่รถได้ในกรณีตัวรถกีดขวางการจราจรของรถฉุกเฉิน

■กรณีอพยพด้วยรถ
การเคลื่อนรถเมื่อเกิดแผ่นดินไหวนั้นเป็นอันตรายอย่างมาก เนื่องจากอาจมีจราจรติดขัด, มีความเสียหายบนถนนหรือรอยแยกบนถนน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ กรุณาหยุดรถในที่ที่ปลอดภัยและอพยพโดยการเดิน
กรณีไม่มีสถานที่อพยพอยู่ใกล้ๆ และต้องใช้รถในการอพยพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ขับขี่อย่างระมัดระวังและมีสติ และระวังสัญญาณไฟรอบๆ ด้วย เนื่องจากแผ่นดินไหวอาจทำให้ไฟดับจนสัญญาณไฟจราจรไม่ทำงานได้

2. ฝนตกหนักกะทันหัน

■กรณีประสบภัยฝนตกหนักขณะขับรถ
เมื่อฝนตกหนักอย่างรุนแรง ให้หยุดการขับขี่ชั่วคราวและจอดรถในที่ปลอดภัย แล้วรอจนกว่าฝนจะหยุด

■หลีกเลี่ยงการลอดอุโมงค์
อุโมงค์ทางลอดคือถนนตัดผ่านที่สร้างขึ้นจากการขุดพื้นที่โดยรอบ โดยถนนนั้นจะอยู่ใต้ทางด่วน ทางเดินรถไฟหรือชินคันเซ็น เป็นต้น
เมื่อเกิดฝนตกหนัก อุโมงค์ทางลอดเป็นจุดอันตรายเนื่องจากเป็นสถานที่ที่เกิดน้ำท่วมขังได้ง่าย บางแห่งอาจเกิดน้ำท่วมสูงหลายเมตร
เมื่อเกิดฝนตกหนัก กรุณาหลีกเลี่ยงการผ่านพื้นที่น้ำท่วมขัง

■การคิดว่า “อาจจะผ่านได้ก็ได้” เป็นอันตรายอย่างมาก
การที่คุณคิดว่าคุณสามารถขับรถบนถนนที่มีน้ำท่วมได้นั้น เป็นอันตรายอย่างมาก แม้คุณจะคิดว่าเป็นแค่น้ำท่วมตื้นๆ ก็ตาม แม้แต่น้ำท่วมปริมาณเล็กน้อยก็สามารถพัดพารถไปได้เช่นกัน
หากคุณขับรถในพื้นที่ที่มีน้ำท่วม อาจเป็นไปได้ว่ารถคันข้างหน้าอาจเกิดเครื่องยนต์ดับจนไม่สามารถขยับได้ และหากปริมาณน้ำท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ คุณก็จะไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย
เห็นได้ชัดว่า เราควรหลีกเลี่ยงการขับขี่บนถนนที่มีน้ำท่วมค่ะ

3. หิมะตกหนัก

■กรณีติดอยู่บนถนนหิมะ
หากล้อรถเกิดการไถลบนหิมะที่เพิ่งตกทำให้ติดอยู่บนหิมะ ให้เคลื่อนที่รถไปข้างหน้า-หลังอย่างช้าๆ เพื่อทำให้หิมะรอบๆ ล้อแข็งขึ้น
หากมีกล่องทรายสำหรับกันลื่นอยู่ที่ข้างทาง ให้ใช้ทรายโปรยที่รอบๆ ล้อ

■กรณีไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เนื่องจากหิมะตกหนัก
หากเกิดปรากฏการณ์ Whiteout หรือสภาพที่ข้างหน้ามองไม่เห็นอะไรเลยเนื่องจากหิมะตกหนักมาก ให้เปิดไฟฉุกเฉินและหยุดรถด้วยความปลอดภัย
เนื่องจากท่อไอเสียอาจเกิดการอุดตันเพราะหิมะได้ กรณีนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดก๊าสคาร์บอนมอนอ็อกไซด์เป็นพิษได้ เพราะฉะนั้น กรุณาเอาหิมะออกจากท่อไอเสียในขณะที่กำลังรอความช่วยเหลือ

4. กรณีน้ำเข้ารถ

แม้ว่าเครื่องยนต์จะดับในขณะที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม และน้ำท่วมเข้ามาในรถ การมีสติและใจเย็นเป็นสิ่งสำคัญ
ก่อนอื่น ปลดเข็มขัดที่นั่ง เปิดประตู แล้วจึงอพยพ หากน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถเปิดประตูได้ ให้อพยพออกทางหน้าต่าง หากหน้าต่างไม่สามารถเปิดได้ ให้ทุบกระจกหน้าต่างให้แตก แล้วจึงอพยพ (ไม่ใช่กระจกหน้ารถ)

5. กรณีเกิดไฟไหม้รถ

เมื่อเกิดไฟไหม้ระหว่างขับรถ ให้เปิดไฟกระพริบฉุกเฉินเพื่อให้รถที่อยู่โดยรอบสังเกตเห็นว่ารถคุณเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
ต่อมา ให้หยุดรถที่ไหล่ทางและใช้โทรศัพท์มือถือของคุณโทรเบอร์ฉุกเฉิน 119 หากเป็นไปได้ กรุณาพยายามดับไฟด้วยตัวเองโดยอยู่ในขอบเขตที่ไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองไปด้วย
คุณอาจใช้เสื้อคลุมหรือแจ็คเก็ต หรือน้ำดื่มดับไฟได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของไฟ

6. Safety Information Card – อุปกรณ์ที่มีประโยชน์ต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่นเมื่อเกิดภัยพิบัติ

อุปกรณ์จากหน่วยงานการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นนี้ ได้สรุปข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการเตรียมการต่อการเกิดภัยพิบัติ รวมถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่เป็นประโยชน์ ให้นักท่องเที่ยวได้สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดน้อย แต่ก็มีโอกาสเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้นได้  ในกรณีนี้สามารถใช้อุปกรณ์นี้ได้ค่ะ

Safety Information Card – 観光庁

Read More

คู่มือเคาน์เตอร์รถเช่าในสนามบิน

เมื่อกดปุ่มไอคอนบริษัทรถเช่าของแต่ละสนามบิน คุณจะสามารถตรวจสอบข้อมูลที่ตั้งเคาน์เตอร์รถเช่าของแต่ละสนามบินได้

สนามบิน New Chitose (เทอร์มินัลในประเทศ)  
สนามบิน New Chitose (เทอร์มินัลระหว่างประเทศ)
สนามบินนานาชาติ Narita (เทอร์มินัล 1)  
สนามบินนานาชาติ Narita (เทอร์มินัล 2 & 3)
สนามบิน Haneda (เทอร์มินัล 1)
สนามบิน Haneda (เทอร์มินัล 2)
สนามบินนานาชาติ Chubu Centrair    
สนามบินนานาชาติ Kansai  
สนามบิน Fukuoka (เทอร์มินัลระหว่างประเทศ)
สนามบิน Fukuoka (เทอร์มินัลในประเทศ)
สนามบิน Kagoshima
สนามบิน Naha 相關圖片

 

 


สนามบิน New Chitose (เทอร์มินัลในประเทศ)

เคาน์เตอร์เช็คอินรถเช่าจะอยู่ชั้น 1 ตึกเทอร์มินัลในประเทศ
กรุณาไปที่เคาน์เตอร์รถเช่า ตามเครื่องหมายโลเคชั่นที่ปรากฎในแผนที่ข้างล่างนี้

แผนที่ชั้น 1 ล็อบบี้ขาเข้า เทอร์มินัลในประเทศ
เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบิน New Chitose

 



สนามบิน New Chitose (เทอร์มินัลระหว่างประเทศ)

กรุณาเช็คอินรถเช่าที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่ชั้น 1
เมื่อออกจากเกทแล้ว ให้เดินไปทางซ้ายมือ ลงบันไดเลื่อนทางซ้ายสุดไปยังชั้น 1 (Curbside Lobby) เมื่อเดินไปถึงกลางตึกแล้ว จะเห็นเคาน์เตอร์รถเช่าอยู่ขวามือ ตามเครื่องหมายโลเคสีชมพูที่ปรากฎในภาพข้างล่างนี้

แผนที่ชั้น 1 (Curbside Lobby)
เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบิน New Chitose

 



สนามบินนานาชาติ Narita (เทอร์มินัล 1)

เคาน์เตอร์ Reception ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ล็อบบี้ขาเข้า
หมายเลข “14” บนแผนที่ คือสถานที่ตั้งเคาน์เตอร์

แผนที่เทอร์มินัล 1 ชั้น 1

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบินนานาชาติ Narita



สนามบินนานาชาติ Narita (เทอร์มินัล 2 & 3)

* หากคุณลงที่เทอร์มินัล 3 กรุณาใช้บริการเคาน์เตอร์รถเช่าในเทอร์มินัล 2 (ในประเทศ)

เคาน์เตอร์ตั้งอยู่ที่ล็อบบี้ขาเข้า ชั้น 1 เทอร์มินัล 2
หมายเลข “9” บนแผนที่ คือสถานที่ตั้งเคาน์เตอร์

แผนที่เทอร์มินัล 2 ชั้น 1

แหล่งที่มา:เว็บไซต์ทางการสนามบินนานาชาติ Narita



สนามบิน Haneda เทอร์มินัล 1 (Times, Orix, และ Nissan)

ไปที่เคาน์เตอร์ Reception ที่ตั้งอยู่ในล็อบบี้ขาเข้า  (Arrival Lobby) ชั้น 1
เคาน์เตอร์รถเช่าจะตั้งอยู่ใกล้กับ “Information 3” ตามในแผนที่ชั้น 1

แผนที่ชั้น 1

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบิน Haneda



สนามบิน Haneda เทอร์มินัล 1 (Nippon, Toyota)

ไปที่เคาน์เตอร์ Reception ที่ขาเข้าล็อบบี้  (Arrival Lobby) ชั้น 1
เคาน์เตอร์รถเช่าจะตั้งอยู่ใกล้กับ “Information 5” ตามในแผนที่ชั้น 1

แผนที่เทอร์มินัล 1 ชั้น 1

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบิน Haneda



สนามบิน Haneda เทอร์มินัล 2 (Nippon, Orix, Nissan)

กรุณาไปที่เคาน์เตอร์ Reception ที่ขาเข้าล็อบบี้ ชั้น 1 กรุณาไปที่เคาน์เตอร์รถเช่าที่ตั้งอยู่ใกล้กับ “Information 3” ตามแผนที่ข้างล่างนี้

แผนที่เทอร์มินัล 2 ชั้น 1

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบิน Haneda



สนามบิน Haneda เทอร์มินัล 2 (Times, Toyota)

กรุณาไปที่เคาน์เตอร์ Reception ที่ขาเข้าล็อบบี้ ชั้น 1 กรุณาไปที่เคาน์เตอร์รถเช่าที่ตั้งอยู่ใกล้กับ “Information 3” ตามแผนที่ข้างล่างนี้

แผนที่เทอร์มินัล 2 ชั้น 1

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบิน Haneda



สนามบินนานาชาติ Chubu Centrair

เมื่อลงเครื่องแล้ว ให้ไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ใน Access Plaza ตามเครื่องหมาย ? สีน้ำเงินที่ปรากฎบนแผนที่ข้างล่างนี้
เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทั่วไปเปิดทำการตั้งแต่ 6:40-22:30
※หากคุณลงเครื่องนอกเวลาทำการดังกล่าว กรุณาไปที่สาขารถเช่าเองโดยตรงจาก Access Plaza ชั้น 1

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบิน Chubu Centrair



สนามบินนานาชาติ Kansai (Toyota, Nissan, Orix)

เคาน์เตอร์จะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ตึก Aero Plaza (จะไม่มีเคาน์เตอร์ในเทอร์มินัล) ตามหมายเลข 23 ที่มีเครื่องหมายโลเคชั่น ที่ปรากฎในแผนที่ข้างล่างนี้
※ลูกค้าที่ลงเทอร์มินัล 1 ให้เดินจากทางเชื่อมชั้น 2 ใช้เวลาเพียง 3 นาที
※ลูกค้าที่ลงเทอร์มินัล 2 สามารถขึ้น Shuttle bus ฟรีมาได้ ใช้เวลานั่งบัส 7 นาที

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบินนานาชาติ Kansai



สนามบินนานาชาติ Kansai (Nippon, Times)

เคาน์เตอร์จะตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ตึก Aero Plaza (จะไม่มีเคาน์เตอร์ในเทอร์มินัล) ตามหมายเลข 23 ที่มีเครื่องหมายโลเคชั่น ที่ปรากฎในแผนที่ข้างล่างนี้
※ลูกค้าที่ลงเทอร์มินัล 1 ให้เดินจากทางเชื่อมชั้น 2 ใช้เวลาเพียง 3 นาที
※ลูกค้าที่ลงเทอร์มินัล 2 สามารถขึ้น Shuttle bus ฟรีมาได้ ใช้เวลานั่งบัส 7 นาที

 

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบินนานาชาติ Kansai


สนามบิน Fukuoka เทอร์มินัลระหว่างประเทศ

สถานที่รับรถจะไม่ได้อยู่ในสนามบิน แต่ละบริษัทรถเช่าจะจัดเตรียมบริการรถรับส่งฟรีไปยังที่สาขา
เมื่อลงเครื่องแล้วให้ไปที่เคาน์เตอร์รถเช่าที่ตั้งอยู่ชั้น 1 ตามแผนที่ข้างล่างนี้ 
หลังจากนั้นพนักงานจะจัดเตรียมรถรับส่ง เมื่อลงทะเบียนที่เคาน์เตอร์เสร็จแล้ว จุดขึ้นรถรับส่งจะอยู่ชั้น 3 (ใช้เวลานั่งรถไปยังสาขา ประมาณ 3 นาที)
※หากไม่มีพนักงานอยู่ที่เคาน์เตอร์ กรุณาติดต่อสาขาโดยตรง โดยแจ้งชื่อให้พนักงานทราบ
Toyota: 092-778-0100
Nissan: 092-433-4123 (สามารถใช้โทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์ได้)
Times: 092-432-7070 (สามารถใช้โทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์ได้)
Nippon: 092-433-0919 / 0120-65-0919 (Toll Free)
Budget: 092-735-8886

 

เครดิต:เว็บไซต์ทางการสนามบิน Fukuoka



สนามบิน Fukuoka เทอร์มินัลในประเทศ (TOYOTA)

ลูกค้ามาถึงที่ทางออกทิศเหนือ:
จากประตูทางออกให้เลี้ยวขวาและเดินต่อไปจนถึงทางออกช่อง A จากอาคาร「สนามบินฝั่งทิศเหนือ」ให้ข้ามไฟแดงและเดินมาที่ร้าน
จากสนามบิน ถึงร้านใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ลูกค้ามาถึงที่ทางออกทิศใต้:
จากประตูทางออกให้เดินมาจนถึงช่อง A และจากอาคาร「สนามบินฝั่งทิศเหนือ」ให้ข้ามไฟแดงและเดินมาที่ร้าน
จากสนามบิน ถึงร้านใช้เวลาประมาณ 5นาที



สนามบิน Fukuoka เทอร์มินัลในประเทศ (Nissan)

เดินออกจากทางออกทิศใต้เทอร์มินัลในประเทศ ใช้เวลา 3 นาที



สนามบิน Fukuoka เทอร์มินัลในประเทศ (Times)

เดิน 5 นาทีจากทางออกเทอร์มินัล จุดขึ้นลงรถเช่าอยู่หน้าทางออกทิศเหนือของเทอร์มินัลในประเทศ โทรหาสาขาเมื่อมาถึง (092-629-5656) และรอบริเวณจุดขึ้นรถ คุณจะได้รับรถ



สนามบิน Fukuoka เทอร์มินัลในประเทศ (Nippon สาขา 1 และ 2)

สาขา 1:
– ไม่มีบริการรถรับส่ง
– เดิน 3 นาที จากทิศใต้ของบริเวณผู้โดยสารขาเข้า
– เดิน 1 นาที จากทางออกหมายเลข 4 ของรถไฟใต้ดิน
สาขา 2:
– เมื่อมาถึงแล้ว กรุณาโทรหาบริการรับส่ง 0120-59-0919 (โทรฟรี) แล้วเดินมาที่จุดรับส่งสำหรับบริการรถเช่า (มีป้าย レンタカー送迎乗降場) พนักงานจะพาไปยังสาขาเพื่อรับรถ หากไม่ทราบสถานที่ กรุณาสอบถามประชาสัมพันธ์สนามบิน
– ประมาณ 10 นาที โดยรถยนต์ จากสนามบินฟุกุโอกะ



สนามบิน Fukuoka เทอร์มินัลในประเทศ (Budget)

ลูกค้าที่มาจากล็อบบี้ฝั่งเหนือ (North):
ออกจากทางออก F แล้วข้ามทางม้าลายตรงมาที่ตึกจอดรถที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นจุดจอดรถบัสท่องเที่ยว ตรงจุดนั้นจะมีป้ายเขียนว่า “レンタカー、民間駐車場乗降場” คือจุดนัดพบรถรับส่งของเรา รถบัสรับส่งจะมารับภายในประมาณ 10- 15 นาที
ระยะเวลารอรถจะต่างกันไปแล้วแต่ช่วงเวลา
※บริการรับส่งเป็นบริการแบบ on demand กรุณาอย่าลืมโทรหาเราก่อนเพื่อใช้บริการ (โทร 092-735-8886)

ลูกค้าที่มาจากล็อบบี้ฝั่งใต้ (South):
ออกจากทางออก A ข้ามทางม้าลายที่อยู่ตรงหน้ามา พอข้ามมาแล้วให้เลี้ยวขวาแล้วเดินลงไปที่ถนนประมาณ 10 นาที จะเห็นร้านอยู่ใต้ป้าย “明治のおいしい牛乳”
※ถ้าต้องการใช้บริการรับส่ง กรุณาไปที่จุดนัดพบตามที่ระบุด้านบน แล้วโทรหาเรา (โทร 092-735-8886)


สนามบิน Kagoshima 

สำหรับลูกค้า Nissan, Budget, Toyota, Times, Nippon
ไม่มีเคาน์เตอร์ภายในสนามบิน กรุณาโทรหาสาขาโดยตรงจากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน 
※ลูกค้าจากเที่ยวบินในประเทศ: ให้ไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ (Tourism & General Information Office) ที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 1
※ลูกค้าจากเที่ยวบินระหว่างประเทศ: ให้ไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ (General Information Office) ที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 1

Nissan Rent a Car:0995-58-2121
BUDGET Rent A Car:0995-58-3543
TOYOTA Rent a Car:0995-58-2306
Times Car Rental:0995-58-3888
Nippon Rental Car:0995-58-2539

เทอร์มินัลในประเทศ: เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ (Tourism & General Information Office) ที่ตั้งอยู่ที่เครื่องหมาย “?”
เทอร์มินัลระหว่างประเทศ: เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ (General Information Office) ที่ตั้งอยู่ที่เครื่องหมาย “?”
เครดิต: เว็บไซต์ทางการสนามบิน Kagoshima

Sky Rent a Car สาขาสนามบิน Kagoshima
ไม่มีเคาน์เตอร์รถเช่าภายในสนามบิน เมื่อมาถึงแล้วโปรดโทร 0995-58-9330 เพื่อใช้บริการรับส่ง (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
เดินออกจาก ① Doorway เทอร์มินัลระหว่างประเทศตามแผนที่ด้านล่างนี้ เลี้ยวขวาแล้วเดินต่อประมาณ 30 เมตร จะมีจุดรับส่งรถอยู่ที่นั่น

เทอร์มินัลระหว่างประเทศ: ออกจาก ① Doorway เลี้ยวขวา
เครดิต: เว็บไซต์ทางการสนามบิน Kagoshima

สนามบิน Naha

จะไม่มีเคาน์เตอร์ภายในสนามบิน แต่จะมีบริการรับส่งฟรีจากสนามบินไปยังสาขา สำหรับผู้ที่เดินทางมาลงเทอร์มินัลต่างประเทศหรือเทอร์มินัล LCC ให้ไปที่เทอร์มินัลในประเทศก่อน จากนั้นออกจากทางออกเทอร์มินัล แล้วมองหาจุดขึ้นรถรับส่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะอยู่ที่ “Rental Car Pickup” ที่ปรากฎบนแผนที่ด้านล่างนี้
สำหรับลูกค้า Nissan, Times, Nippon, Sky Rent a Car, ABC Rent a carの พอข้ามถนนออกมาจากเทอร์มินัลในประเทศแล้ว ให้มองหาป้าย “11-B” (レンタカー送迎バス乗り場) แล้วให้รอที่นั่น
สำหรับลูกค้า Budget และ Toyota พอออกจากเทอร์มินัลในประเทศมาแล้วให้รอที่ป้าย “11-A”

※ลูกค้า Budget เมื่อลงเครื่องแล้ว ให้โทรหาสาขาก่อนที่จะไปรอที่จุดนัดพบ Tel: 098-856-2200



Read More